ทำฐานข้อมูลเพื่อพัฒนาท้องถิ่น
จากการนำเสนอรายงานการติดตามและวิจัยเชิงประเมินบทบาทและสัมฤทธิผลของมหาวิทยาลัยราชภัฏ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต นำเสนอโดย ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ และ ผศ.ดร.จิราทัศน์ รัตนมณีฉัตร โดย ศ.ดร.สมหวัง กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูล มรภ.ที่เป็นกรณีศึกษา 5 แห่ง ได้แก่ มรภ.นครราชสีมา, มรภ.เชียงราย, มรภ.ราชนครินทร์, มรภ.กาญจนบุรี และ มรภ.ภูเก็ต พบว่า มรภ.นครราชสีมา เป็น มรภ.เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่มีศักยภาพและสมรรถนะสูง ส่วนอีก 4 แห่งเป็น มรภ.เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่มีศักยภาพปานกลางค่อนข้างสูง และมีข้อค้นพบด้วยว่า ยุทธศาสตร์ใหม่ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) มีบทบาททำให้ มรภ.ได้ทบทวนปรับปรุงและพัฒนายุทธศาสตร์ โดยน้อมนำพระราโชบายไปบูรณาการในการปรับยุทธศาสตร์และโครงสร้างการบริหาร ให้เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
คณะผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะว่า มรภ.ที่เป็นกรณีศึกษาหลายแห่งมีแผนยุทธศาสตร์ที่ไม่สอดคล้องกับการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 และพระราโชบาย ดังนั้นสภา มรภ.พึงมีมติให้ มรภ.ปรับแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยระยะ 5 ปี หรือ 20 ปี ตามแนวทางยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579), ปรับยุทธศาสตร์และโครงสร้างมหาวิทยาลัยให้สมกับเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นและภูมิภาค, สำนักงบประมาณพึงจัดงบประมาณสนับสนุน มรภ.ให้เป็นงบพื้นฐานในการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น, มรภ.ควรมีบทบาทและร่วมมือกับจังหวัด ท้องถิ่น จัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและหน่วยงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว, ควรสร้างความเข้มแข็งให้ที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.) มรภ.โดยจัดให้มีเลขาธิการที่ประชุม
ทปอ.มรภ.ที่ทำงานเต็มเวลา มีสำนักงาน ทปอ.มรภ. โดย มรภ.ทุกแห่งร่วมกันรับผิดชอบค่าใช้จ่าย, มรภ.ทุกแห่งควรร่วมมือกันพัฒนาระบบบิ๊กเดต้า เพื่อการบริหารมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะฐานข้อมูลเพื่อการบริหาร มรภ. และฐานข้อมูลความต้องการของท้องถิ่น, คณะกรรมการการอุดมศึกษา พึงประสานกับสภา มรภ.มีมติให้คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานและอธิการบดี ดำเนินการติดตาม กำกับผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของ มรภ. ตามพระราโชบายเป็นรายไตรมาส และประเมินผลงานอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง แล้วจัดส่งรายงานการติดตามและประเมินผลให้ กกอ.เพื่อทราบและใช้ประโยชน์ต่อไป และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ควรสนับสนุนให้ขยายผลในการติดตามบทบาทและสัมฤทธิผลตามยุทธศาสตร์ใหม่ของ มรภ.ทั้งหมด.